นครเอกทั้ง 8 แห่งใน Game of Throne Winter is Coming

May 27, 2019

อาณาจักรทั้งเจ็ดมีปราสาทที่มีชื่อเสียงมากมาย ปราสาทเหล่านั้นเป็นตัวแทนของเกียรติยศ อำนาจ และความมั่งคั่งของตระกูลใหญ่ กลุ่มพันธมิตรที่ยึดครองหรือเป็นเจ้าของปราสาทจะได้รับการสนับสนุนจากชาวเมือง รวมทั้งได้รับโบนัสและค่าเสริมพลังอื่น ๆ ที่ปราสาทมอบให้

 

1.jpg

วินเทอร์เฟล (พลังโจมตีรวม +10%)

ราตรีอันยาวนานอาจจะสิ้นสุดลง และผากำแพงก็ตั้งตระหง่านขึ้นแล้ว แต่แบรนดอนผู้สร้างก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น

เนื่องจากความน่ากลัวของราตรีอันยาวนานยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ แบรนดอนตระหนักว่าสักวันหนึ่งมันจะต้องกลับมาอีกครั้ง และเมื่อเวลานั้นมาถึง ผู้คนก็คงจะลืมเลือนฝันร้ายนี้ไปแล้ว

วีรบุรุษผู้ต่อสู้กับปีศาจร้ายก็ไม่อาจหวนกลับมามีชีวิตได้อีก ความจริงอันน่าเศร้านี้ทำให้แบรนดอนตั้งรกรากอยู่ในแดนเหนืออันหนาวเหน็บ เขาต้องการให้ลูกหลานเฝ้าจับตาดูศัตรูที่หลับใหลอยู่ในดินแดนแห่งฤดูหนาวอันเป็นนิรันดร์

ปราสาทแห่งแดนเหนือจึงถือกำเนิดขึ้น และตระกูลสตาร์กผู้สืบเชื้อสายมาจากแบรนดอนผู้สร้างจึงได้ปกครองดินแดนแห่งนี้เรื่อยมา แม้เรื่องราวของแบรนดอนผู้สร้างได้ลบเลือนไปจากจิตใจของผู้คน และชาวแอนดัลก็ได้พ่ายแพ้ให้แก่โลหิตและอัคคีไปแล้ว แต่ตระกูลสตาร์กก็ยังเฝ้าดูแลแดนเหนือต่อไป

เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าฤดูหนาวกำลังจะมาถึงอย่างแน่นอน

 

2.jpg

ริเวอร์รัน (พลังโจมตีของทหารราบ +20%)

สิ่งที่อยู่เบื้องหลังความชื่นชมของเหล่าผู้ถือธงและทำให้คำขวัญของตระกูลทัลลีที่ว่า "ครอบครัว หน้าที่ และเกียรติยศ" ดังกึกก้องไปทั่วริเวอร์แลนด์ก็คือ ปราสาทริเวอร์รันที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง

ชาวแอนดัลเดินทางมาจากแคว้นหุบเขาเมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา พวกเขาต่อสู้กับเหล่าปฐมบุรุษและสร้างอาณาจักรทั้งเจ็ดขึ้น ในเวลานั้นเองที่ตระกูลทัลลีได้ตั้งหินก้อนแรกของปราสาทริเวอร์รัน ณ จุดบรรจบของหินคะมำและแม่น้ำง่ามแดง ในปัจจุบัน ปราสาทริเวอร์รันยังคงตั้งเด่นเป็นสง่าหลังจากที่ตระกูลทัลลีปกครองริเวอร์แลนด์มานานกว่า 300 ปีแล้ว

ปราสาทริเวอร์รันอาจจะไม่สวยงามเหมือนปราสาทอื่น ๆ ในริเวอร์แลนด์ แม้แต่ปราสาทฮาร์เรนฮัลที่ถูกทำลายไปก็ยังใหญ่กว่านี้ถึงสิบเท่า แต่ปราสาทริเวอร์รันก็ยังคงเป็นตำแหน่งที่ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในยามสงคราม กษัตริย์แทบทุกพระองค์ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ล้วนต้องการแรงสนับสนุนจากตระกูลทัลลีทั้งสิ้น ไม่มีศึกใดที่จะโค่นล้มริเวอร์รันลงได้

3.jpg

เอียรี (พลังโจมตีของพลธนู +20%)

ปราสาทเอียรี นามที่เหล่าอัศวินแห่งแคว้นหุบเขาเอ่ยถึงอย่างภาคภูมิใจ และเป็นนามที่ทำให้ศัตรูต้องประหวั่นพรั่นพรึงเป็นอันมาก ที่แห่งนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าปราสาทไร้พ่าย เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา ตระกูลแอร์รินซึ่งเป็นเชื้อสายที่เก่าแก่ที่สุดเชื้อสายหนึ่งของชาวแอนดัล ค่อย ๆ สร้างปราสาทเอียรีขึ้นมาโดยใช้เวลาเวลาหลายชั่วอายุคน หน้าผาอันแสนอันตรายของหุบเขาดวงจันทร์ทำหน้าที่ปกป้องทั้งปราสาทและชาวเมืองเรื่อยมา แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่าพันปีแล้ว ปราสาทเอียรีก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ลอร์ดจอน แอร์ริน ได้ลุกขึ้นต่อต้านกษัตริย์แอริสผู้บ้าคลั่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งอาณาจักรทั้งเจ็ด

 

4.jpg

 

คาสเตอร์ลีร็อก (พลังโจมตีของทหารม้า +20%)

คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าความรุ่งโรจน์ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจาก "การหลอกลวง" หลังจากแลนน์ผู้ชาญฉลาดช่วงชิงปราสาทจากตระกูลคาสเตอร์ลีได้ ตระกูลแลนนิสเตอร์ก็ปรากฏตัวในหน้าประวัติศาสตร์และครองอำนาจเป็นเวลานานหลายศตวรรษ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คาสเตอร์ลีร็อกก็เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความยิ่งใหญ่ และความรุ่งเรือง

ในยุคของปฐมบุรุษ ตระกูลคาสเตอร์ลีได้ค้นพบทองคำในภูเขาหินแห่งนี้ จึงตัดสินใจที่จะตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ในขณะที่ขุดหาทองลึกลงไปเรื่อย ๆ พวกเขาก็ได้สร้างโถงทางเดินและอุโมงค์เรื่อยไป จนกลายมาเป็นปราสาท จากนั้นตระกูลแลนนิสเตอร์ผู้สืบเชื้อสายจากแลนน์ผู้ชาญฉลาด ก็พัฒนาที่แห่งนี้ให้เป็นปราสาทที่โอ่โถง ร่ำรวย และมียุทโธปกรณ์ครบครันที่สุดในอาณาจักรทั้งเจ็ด ทำให้คาสเตอร์ลีร็อกและตระกูลแลนนิสเตอร์มีชื่อเสียงไปทั่วทุกแว่นแคว้น แม้แต่ดินแดนที่อยู่อีกฟากของทะเลแคบ จงฟังข้าคำราม!

 

5.jpg

ไฮการ์เดน (พลังชีวิตรวม +20%)

บุตรชายของเขา การ์ธ การ์เดเนอร์ อาศัยอยู่ในดินแดนที่อบอุ่นที่สุดของเวสเทอรอส นั่นก็คือบริเวณที่ลุ่มแม่น้ำแมนเดอร์ ซึ่งเขาได้สร้างปราสาทและปลูกพืชพพันธุ์บนดินแดนให้อุดมสมบูรณ์ ภายหลังปราสาทแห่งนี้ได้รับการขนามนามว่าไฮการ์เดน และยืนหยัดมาเป็นเวลานับพันปี

หลังจากตระกูลการ์เดเนอร์ถูกตระกูลไทเรลเข้าแทนที่ ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ก็เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์และดอกไม้หลากสีเรียงรายประดับไปตลอดถนนเลียบมหาสมุทร ผลไม้สุกงอมเรียงรายอยู่บนต้นไม้ทุกต้น และกลิ่นหอมของกุหลาบทองคำก็อบอวลไปทั่ว

นี่คือไฮการ์เดน ดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง

 

6.jpg

สตอร์มส์เอนด์ (พลังป้องกันรวม +10%)

ทุกครั้งที่ปราสาทหลังเก่าถูกทำลาย เดอร์รานจะสร้างปราสาทหลังใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งประสบความสำเร็จในปราสาทหลังที่ 7 นั่นก็คือสตอร์มส์เอนด์

ปราสาทสตอร์มส์เอนด์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของปราสาทที่ไม่มีวันถูกทำลาย ไม่มีพายุลูกใดหรือสงครามครั้งไหนที่จะสั่นคลอนปราสาทที่เดอร์รานพอยต์แห่งนี้ได้เลย ปราสาทนี้ผ่านสงครามผู้พิชิต สงครามผู้ชิงบัลลังก์ และศึกครั้งอื่น ๆ นับไม่ถ้วน และไม่เคยแตกพ่ายหรือถูกทำลายแม้แต่ครั้งเดียว

ไม่ว่าตำนานนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่สตอร์มส์เอนด์ก็ยังเป็นปราสาทที่แข็งแกร่งอย่างไร้ข้อกังขา ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงร้อยฟุต แนวกำแพงหินก่อขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อป้องกันไม่ให้สายลมเล็ดลอดเข้ามาได้

แม้เวลาจะผ่านมานับพันปีแล้ว สตอร์มส์เอนด์ก็ยังยืนเด่นท่ามกลางลมพายุและศึกสงครามมากมาย

7.jpg

ซันสเปียร์ (พลังโจมตีของพลหอก +20%)

เรื่องราวของตระกูลมาร์เทลเป็นเรื่องราวอันเลื่องลือของตระกูลเล็ก ๆ ที่ไต่เต้าขึ้นสู่อำนาจ

ลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่แห่งดอร์นนั้นมีจุดเริ่มต้นที่สมถะ ประวัติของตระกูลนี้เป็นตำนานที่ไม่เหมือนเรื่องเล่าใด ๆ

กาลครั้งหนึ่ง ซันสเปียร์เป็นเพียงปราสาทเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ตั้งอยู่ทางเหนือของแม่น้ำกรีนบลัด ปราสาทแห่งนี้มีสภาพใกล้เคียงกับตระกูลมาร์เทลในขณะนั้น คือไร้ชื่อเสียงและไร้อำนาจ

ในไม่ช้าตระกูลมาร์เทลจะต้องถูกลบล้างไปจากประวัติศาสตร์แน่นอน แต่ชะตากรรมของพวกเขาก็พลิกผันเมื่อชาวรอยนาร์เดินทางมาถึง ไม่มีการสมรสเพื่อผูกสัมพันธ์ครั้งใดที่ส่งผลอันยิ่งใหญ่ต่อดินแดนหนึ่งมากไปกว่านี้อีกแล้ว เราไม่มีทางทราบได้เลยว่าตระกูลมาร์เทลคิดยังไงกับชาวรอยนาร์และไนมีเรียผู้เป็นราชินี แต่ผลของการรวมตระกูลนั้นก็เป็นที่ประจักษ์

ปัจจุบันตระกูลมาร์เทลปกครองดอร์นมานานกว่า 700 ปีแล้ว และเมืองหลวงซันสเปียร์ก็ตั้งตระหง่านอย่างภาคภูมิ โดยมีกำแพงอันคดเคี้ยวสามแห่งและตรอกแคบๆ จำนวนมากคอยคุ้มครองอยู่ หอคอยอันสูงเด่นสองแห่ง นามว่าหอคอยหอกและหอคอยตะวัน ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของดอร์น แม้แต่เรือทรายอันอัปลักษณ์จากสมัยก่อนก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของซันสเปียร์

 

8.jpg

คิงส์แลนดิง

กษัตริย์จะได้รับพลังโจมตี พลังป้องกัน และพลังชีวิตรวม +15%

นอกจากนี้ กษัตริย์ยังมีสิทธิ์มอบพลังเสริมพิเศษให้แก่สมาชิกในกลุ่มพันธมิตร และลดค่าพลังของศัตรูเป็นการลงโทษได้อีกด้วย 

เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว มีหมู่บ้านชาวประมงและหนองน้ำตั้งอยู่รายรอบแม่น้ำดำ ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเมื่อเอกอน ทาร์แกเรียน มาเยือน มีการนำดินและไม้ไปบูรณะป้อมปราการของเขา ในระหว่างที่เขาออกรบเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้พิชิต

ในปัจจุบัน ป้อมปราการบนหนองน้ำแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรทั้งเจ็ด แม้เมืองนี้จะผ่านผู้ปกครองมามากมายและยืนหยัดมาฤดูแล้วฤดูเล่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเอื้อให้เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบัน หน่วยผ้าคลุมไหล่ทองจะคอยคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัย ส่วนชาวประมงก็ทำการค้าขายปลาที่ท่าเรือ แสงไฟหลากสีสันบนถนนแห่งแพรไหมปกปิดบรรยากาศอันชวนเศร้าหมองของฟลีบ็อตทอม

ที่แห่งนี้คือคิงส์แลนดิง นครหลวงแห่งอาณาจักรทั้งเจ็ด สถานที่แห่งเกียรติยศและการหลั่งเลือด ผู้ใดจะได้ขึ้นครองบัลลังก์เหล็กเป็


แชร์ไปที่:
< PREVIOUS NEXT >
OPEN

โปรดกด Ctrl +D เพื่อบุ๊กมาร์กหน้าเว็บ

OK

เร็ว ๆ นี้!

เรากำลังจัดการให้ข้อตกลงในการให้บริการของเราอ่านง่ายขึ้น เพื่อให้มอบบริการที่ดีที่สุดให้กับคุณโดยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณไปด้วย เราหวังว่าคุณจะสละเวลาสักไม่กี่นาทีมาอ่านข้อตกลงในการให้บริการที่เพิ่งปรับปรุงมาของเรา ข้อตกลงในการให้บริการ นโยบายความเป็นส่วนตัว